นโยบายความเป็นส่วนตัว

วัตถุประสงค์

บริษัท บอสมอเตอร์ จำกัด ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เป็นต้น

ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น

ข้อมูลบัญชี เช่น บัญชีผู้ใช้งาน ประวัติการใช้งาน เป็นต้น

หลักฐานแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง เป็นต้น

ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน เช่น ประวัติการสั่งซื้อ รายละเอียดบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น

ข้อมูลทางเทคนิค เช่น IP Address, Cookie ID, ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Activity Log) เป็นต้น

ข้อมูลอื่น ๆ เช่น รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้เยาว์

หากคุณมีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือมีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เราอาจจำเป็นต้องให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองของคุณให้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ หากเราทราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เราจะดำเนินการลบข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของเรา 

วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ดังต่อไปนี้

  • ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ

 

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน

  • เพื่อจัดส่งสินค้าหรือบริการ

  • เพื่อการบริหารจัดการภายในบริษัท

  • เพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขาย

  • เพื่อการบริการหลังการขาย

  • เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ

  • เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ

  • เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไข (Terms and Conditions)

  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ

  • ในกรณีที่เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของเรา

  • ในกรณีที่จำเป็นสำหรับประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของเรา (หรือของบุคคลที่สาม) และผลประโยชน์และสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของคุณจะไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของเรา

  • สถานการณ์อื่น ๆ ที่คุณยินยอมอย่างชัดเจนที่จะให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

 

นอกจากนี้เรายังอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในสถานการณ์ต่อไปนี้เท่าที่จำเป็นหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายซึ่งมีแนวโน้มที่จะพบได้น้อย

  • ในกรณีเราต้องการปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญของคุณ (หรือผลประโยชน์ของคนอื่น)

  • ในกรณีที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการ

 

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของคุณหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ ดังต่อไปนี้

  1. การบริหารจัดการภายในองค์กร เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายในบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการของเรา เราอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของคุณและผู้อื่นมากขึ้น

  2. ผู้ให้บริการ เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบางอย่างให้กับผู้ให้บริการของเราเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เช่น การชำระเงิน การตลาด การพัฒนาสินค้าหรือบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ให้บริการมีนโยบายความเป็นส่วนตัวของตนเอง

  3. พันธมิตรทางธุรกิจ เราอาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อติดต่อและประสานงานในการให้บริการสินค้าหรือบริการ และให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของสินค้าหรือบริการ

  4. พ่อแม่และผู้ปกครอง หากคุณอายุต่ำกว่า 18 ปี เราต้องแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองของคุณ เพื่อดำเนินการตามสัญญาและปฏิบัติตามระเบียบการ อันอาจเป็นประโยชน์ที่สำคัญของคุณหรือผู้ปกครองของคุณ

  5. การบังคับใช้กฎหมาย ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล หน่วยงานราชการ เป็นต้น

  6. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ เราอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคล องค์กร หรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยเราจะดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ หรือกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

  7. อื่นๆ เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับบุคคลที่สามอื่นๆ เช่นในเรื่องของการขายธุรกิจของเราที่อาจเกิดขึ้นจากการที่คุณใช้บริการของเรา เราอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่ออนุญาตให้เราดำเนิน การแก้ไข หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่คุณใช้บริการของเรา

 

กรณีที่คุณไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

หากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลบางอย่างกับเราหลังจากที่เราขอ เราไม่สามารถทำสัญญาที่เราได้ทำไว้กับคุณ หรือเราอาจถูกป้องกันไม่ให้ปฏิบัติระเบียบการทางกฎหมายที่อนุญาติให้คุณใช้บริการของเรา

  

ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่คุณเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับเราหรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ เราจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  คุณมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้

 

  1. สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากคุณได้ให้ความยินยอม เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่คุณให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา

    สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) คุณมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราและขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่คุณ  รวมถึงขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาได้อย่างไร

  2. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

  3. สิทธิขอคัดค้าน (right to object)  คุณมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่คุณสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ 

  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) คุณมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ หากคุณเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อคุณได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) คุณมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของคุณหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่คุณขอให้เราระงับการใช้แทน

  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) คุณมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  7. สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) คุณมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากคุณเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

คุณสามารถใช้สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ เราจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำขอใช้สิทธิจากคุณ ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่เรากำหนด ทั้งนี้ หากเราปฏิเสธคำขอเราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้คุณทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

การโฆษณาและการตลาด

เราอาจส่งข้อมูลหรือจดหมายข่าวไปยังอีเมลของคุณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนกับคุณ หากคุณไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากเราผ่านทางอีเมลอีกต่อไป คุณสามารถกด "ยกเลิกการติดต่อ" ในลิงก์อีเมลหรือติดต่อมายังอีเมลของเราได้

เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (Cookies)

เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของคุณให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราใช้คุกกี้ (Cookies)หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของคุณ เราใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา หากคุณไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของเราได้

การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้เราจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)

รายละเอียดการติดต่อ

หากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้ ดังนี้

 

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท บอสมอเตอร์ จำกัด

ที่อยู่ไปรษณีย์: 500 ถ.สุขุมวิท ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 21000

ที่อยู่อีเมล: bossmotor.co.ltd@gmail.com

เว็บไซต์: bossmotor.co

 

การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้

เราขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ได้ตลอดเวลา โดยคุณสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565